เป็นที่ปฎิเสธไม่ได้ว่า ปัจจุบันโลกธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองไทย กำลังมีการเปลี่ยนแปลง และพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นกระแส CSR (Customer Social Responsibility) ที่กลายเป็นกระแสนิยมของทุกๆบริษัท CEM(Customer Experience Management) การจัดการการสร้างประสบการ์ณให้กับผู้บริโภค ที่กำลังจะมาแรงในพ.ศ.นี้ รวมไปถึงองค์กรของรัฐ หรือกระแส Blue Ocean ที่หลายบริษัทพยายามที่จะหากลุ่มเป้าหมาย หรือตลาดใหม่ๆ รวมไปถึงกระแสIMC (integrated Marketing Communication) หรือการสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการ ที่พยายามประยุกต์การสื่อสารทางการตลาดหลายๆรูปแบทั้งจากAbove the Line และBelow the Line เข้ามาบูรณาการร่วมกัน ทำให้กระแสการสื่อสารแบบBelow the line เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย
มาถึงตรงนี้ หลายๆคนคงจะงงว่า เอ๊ะ! ไอ้Above the Line และBelow the Line ที่ว่านี่มันคืออะไร Above the Line คือการสื่อสารทางการตลาดแบบMass เช่นการใช้โฆษณาทางโทรทัศน์ การใช้โฆษณาทางBillboard เหมือนกับเป็นการหว่านแห ข้อมูลต่างๆ ไปให้กับผู้บริโภคโดยไม่ได้เลือกว่า จะอยู่ในTarget ของเราหรือไม่ ในขณะที่Below the Line เป็นการสื่อสารทางการตลาด แบบถึงลูกถึงคน Below the Line จะเป้นการสื่อสารแบบเฉพาะกลุ่ม ด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภค ที่ถูกTarget ไว้ กลยุทธ์ที่นิยมใช้กัน สำหรับการสื่อสารแบบBelow the Line เช่น การใช้ Event Marketing ,Sponsorship Marketing, Guerilla Marketing ฯลฯ
จะเห็นได้ว่าปัจจุบัน การตลาดทุกๆวันนี้ ได้เปลี่ยนแปลงไป สืบเนื่องจากการใช้ชีวิตประจำวันของคนไทย ที่เปลี่ยนไป เช่นจากเดิมที่คนเมืองจะใช้เวลาว่างดูโทรทัศน์ ก็กลับกลายมาเป็นการใช้เวลาว่าง ผ่านทางInternet อย่างเราๆท่านๆ หรือกระแสที่จะพักผ่อนโดยการออกไปข้างนอกบ้าน(Out of Home)ก็มีมากขึ้น ทำให้ภาคธุรกิจต้องทำการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ โดยการลุยตลาดผ่านกระบวนการBelow the Line ตามที่ได้กล่าวมาแล้ว...



ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น